เขาพนมสวายมีความสำคัญกับชาวสุรินทร์มาช้านาน บรรพบุรุษถือว่าเป็นสถานที่แสวงบุญ เมื่อถึงวันขึ้น 1 ค่ำ
เดือน 5 ของทุกปีซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติ ประชาชนในท้องที่พร้อมใจกันหยุดงานไปทำบุญ
ขึ้นเขาสวายกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต ถือปฏิบัติสืบต่อกันมา
จนถึงปัจจุบันในปีนี้วันขึ้นเขาพนมสวาย ตรงกับวันจันทร์ ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2554
ประเพณีแคแจ๊ด
เรือมตร๊ด
-- แคแจ๊ดหรือเดือนห้าชาวเขมรพื้นบ้านสุรินทร์ถือเอาวันขึ้น 1 - 3 ค่ำเดือน 5 ของทุกปี เป็นวันตอมตูจ แรม 1 - 8 ค่ำ
เดือน 5 เป็นวันตอมธม ( คุณยาย สำรีบ เกลียวทอง 22/2 ม. 9 ต.นาบัว ผู้ให้ข้อมูล )
การตอมนี้มีความเชื่อว่าให้หยุดการปฏิบัติงานต่างๆทั้งหมดหากใครฝ่าฝืนจะมีอันเป็นไป นอกจากมีการตอมแล้ว
ตลอดทั้งเดือนนี้มีการละเล่นรื่นเริง ได้แก่ เล่นอังกุย ( ลูกสะบ้า ) เรือมอันเร และเรือมตร๊ด
นิยมเล่นในแคแจ๊ดโดยรวมกลุ่มกัน มีพ่อเพลง แม่เพลงผู้สันทัดร้องนำ มีอาสาสมัครเยาวชนหนุ่มสาว ผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้าน
เป็นผู้ร่วมขบวนร้องตามและรำ การแต่งตัวในสมัยก่อนนิยมแต่งสลับเพศเช่นผู้หญิงนุ่งโสร่ง คาดผ้าขาวม้สา เขียนหนวด
ส่วนผู้ชายทัดดอกไม้เป็นต้น เครื่องดนตรีที่ใช้บรรเลงประกอบด้วย ซอ กลอง ปี่ และฉิ่งฉับ ( สุดแล้วแต่มีนักดนตรีในหมู่บ้าน )
จุดประสงค์ในการเล่นนี้ เพื่อขอบริจาคตามศรัทธาจากคนในหมู่บ้าน
และหมู่บ้านใกล้เคียง โดยเอาปัจจัยสิ่งของที่ได้ถวายวัด
การร้อง-เรือมตร๊ดเป็นการละเล่นที่สนุกสนานและชักชวนบริจาคดังบทร้องต่อไปนี้
"แมเวย...ซอมโสด แมเวย..ซอมซ็อบ ซอมประเฮาะกันจ็อบ เกริน โจจ กะเดิ๊บซวาย.."
เมื่อคณะเรือมตร๊ดไปเยือนถึงบ้านจะมีการตั้งขบวนตั้งแต่ประตูทางเข้า พ่อเพลง แม่เพลงเริ่มร้องนำ ซึ่งมีบทร้องหลักๆเรียงลำดับ
คร่าวๆได้ดังนี้ บทร้องขออนุญาตเข้าไปเล่น บทร้องกล่าวถึงจำนวนผู้คนมาร่วมขบวน และบทสุดท้ายคือบทให้พรก่อนลา
"แมเมียนโกนเปราะห์ ออยโตมกะบาลตัมแร็ย ( แม่มีลูกชายให้ได้
นั่งบนคอช้าง ความหมายคือให้ได้บวชเรียน สมัยก่อนเวลาบวชให้นาคขี่ช้าง ) แมเมียนโกนสแร็ย ออยโตมแก็ยจันละ แจะห์กูร แจะห์ฉละ
แจะห์ปะตะโบงคเนย แจะห์การ์ซ็อบเฮย ซอมเลียแมยัวปแด็ย.."
( แม่มีลูกสาวให้ได้ทอผ้า รู้จักแกะสลัก ปักหมอน เก่งงานทุกอย่าง
ค่อยลาแม่มีสามี )
ปัจจัยสิ่งของต่างที่ได้จากการเรือมตร๊ด ชาวบ้านจะรวมตัวกันทำบุญ
อัญจูนกะสัจ ก่อเจดีย์ทราย ตั้งศาลเพียงตา ยกธงชัยฉลองหมู่บ้าน
โดยนิมนต์พระมาสวดประกอบพิธีในตอนเย็น พรมน้ำมนต์เพื่อความ
เป็นสิริมงคล กลางคืนมีการละเล่นกันตรึม ลูจอันเรหรือเรือมอันเร
เพื่อสมโภชน์เจดีย์ทราย ตอนเช้ามีพิธีตักบาตรเลี้ยงพระ สรงน้ำ
พระพุทธรูปและพระสงฆ์ ถวายปัจจัยสิ่งของที่ได้จากการ
เรือมตร๊ดเป็นเสร็จพิธี.
แม้แต่พญาช้างสาร ก็ยังชีพได้ด้วยพืชผักผลไม้เท่านั้น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น